เพื่อประกอบการเรียน รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.1 โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา
วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560
ความหมายของการประกอบอาหาร
1. ทำให้อาหารสุก สะอาด ปราศจากเชื้อโรค อาหารที่สุกด้วยการปรุงผ่านความร้อนสูง และเป็นเวลานานพอสมควร เป็นที่แน่ใจว่า เชื้อโรคและพยาธิถูกทำลายไปแล้ว จึงจะสะอาดเพียงพอ สำหรับการรับประทานอาหารที่ปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ
วิธีการประกอบอาหาร
วิธีการประกอบอาหาร
การประกอบอาหารให้สุกด้วยความร้อนมีหลายวิธี เช่น การต้ม นึ่ง ทอด ซึ่งทุกวิธีมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ต้องทำให้อาหารสุก แต่จะมีคุณค่าต่อผู้บริโภคมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับชนิดของอาหารนั้น ๆ และวิธีการปรุง ซึ่งมีหลักปฏิบัติและข้อดีข้อเสีย ดังนี้
การประกอบอาหารให้สุกด้วยความร้อนมีหลายวิธี เช่น การต้ม นึ่ง ทอด ซึ่งทุกวิธีมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ต้องทำให้อาหารสุก แต่จะมีคุณค่าต่อผู้บริโภคมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับชนิดของอาหารนั้น ๆ และวิธีการปรุง ซึ่งมีหลักปฏิบัติและข้อดีข้อเสีย ดังนี้
1. การปิ้ง ย่าง เผา หรืออบ คือการทำอาหารให้สุกโดยใช้ความร้อนจากเตาไฟโดยตรง มีวิธีการปฏิบัติดังนี้
* การปิ้ง นำอาหารที่ต้องการทำให้สุกวางลงบนตะแกรงเหล็กสำหรับปิ้งบนเตาถ่านที่มีความร้อนไม่มาก ปิ้งกลับไปกลับมาในช่วงเวลาสั้น ๆ วิธีนี้มักใช้กับอาหารแห้ง เช่น ข้าวเกรียบ เนื้อเค็ม ปลาแห้ง
* การย่าง มีวิธีการทำคล้ายกับการปิ้ง แต่ใช้เวลานานกว่าเพื่อให้อาหารสุกระอุทั่วกัน เช่น ย่างไก่ ย่างหมู ย่างปลาสด ก่อนย่างควรทาน้ำมันหรือห่อใบตอง ย่างข้างละประมาณ 2 นาที พลิกกลับไปมา ถ้าต้องการให้มีกลิ่นหอมให้ใส่กาบมะพร้าวลงในเตาไฟ
* การเผา เป็นการทำให้สุกโดยการใช้ไฟแรง วางของที่จะเผาลงบนไฟพลิกกลับไปกลับมา ให้สุกทั้งด้านนอกและด้านใน เช่น ปลาเผา กุ้งเผา มันเทศเผา เป็นต้น
* การอบ เป็นการทำให้สุกโดยใช้ไอความร้อนจากเตาอบ เช่น การอบไก่ ให้ตั้งเตาอบให้ร้อนก่อนประมาณ 15 นาที จึงเอาไก่เข้าอบ ควรทาน้ำมันลงบนเนื้อไก่ที่จะอบ ใช้ความร้อนประมาณ 190 องศาเซลเซียส หรือ 375 องศาฟาเรนไฮต์ ในเวลา 20-30 นาที หากต้องการให้ไก่แห้งกว่านั้นควรลดไฟ และยืดเวลาออกไปประมาณ 10 นาที ทั้งนี้ควรพิจารณาลักษณะของไก่ที่จะอบว่าเป็นตัวหรือเป็นชิ้น ถ้าเป็นชิ้น ระยะเวลาในการอบควรจะสั้นลง และลดอุณหภูมิให้ต่ำลง
ข้อดี -------- การปิ้ง การย่าง การเผา และการอบ เป็นการประกอบอาหารที่สงวนคุณค่าสารอาหารไว้ได้มากกว่า วิธีอื่นๆ
ข้อเสีย ------- ถ้าใช้เวลาในการประกอบอาหารนานเกินไป จะทำให้อาหารแห้งมาก ไหม้ ดูไม่น่ารับประทานและรสชาติไม่อร่อย
การต้ม
การต้ม เป็นการทำให้อาหารสุกด้วยน้ำเดือด วิธีต้ม คือ ต้มน้ำให้เดือดก่อน แล้วค่อยใส่อาหารลงในภาชนะ แต่อาหารบางชนิด เช่น เนื้อวัว ต้องใส่เนื้อในภาชนะ ใส่น้ำก่อนต้มก็ได้รอจนอาหารสุกแล้ว ยกลง ทิ้งไว้ให้อุ่นก่อนตักมารับประทาน
ข้อดี --- การต้มเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับใช้เคี่ยวเนื้อสัตว์ให้เปื่อย เช่น ต้มเครื่องในหมู
ข้อเสีย--- ในขณะที่อาหารแช่อยู่ในน้ำ สารอาหารบางชนิด เช่น วิตามินซีจะละลายออกมาทำให้ สูญเสียคุณค่าสารอาหาร
ข้อดี --- การต้มเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับใช้เคี่ยวเนื้อสัตว์ให้เปื่อย เช่น ต้มเครื่องในหมู
ข้อเสีย--- ในขณะที่อาหารแช่อยู่ในน้ำ สารอาหารบางชนิด เช่น วิตามินซีจะละลายออกมาทำให้ สูญเสียคุณค่าสารอาหาร
การนึ่ง
3 การนึ่ง เป็นการทำให้อาหารสุกด้วยการใช้ไอน้ำจากน้ำเดือด โดยใช้หม้อนึ่งหรือลังถึง วิธีการนึ่ง คือ ใส่น้ำลงในหม้อนึ่งชั้นล่างแล้ว วางอาหารบนลังถึงชั้นบน ปิดฝาให้สนิท นำไปตั้งไฟไอน้ำจาก น้ำเดือดจะทำให้อาหารสุก
ข้อดี ----การนึ่งจะช่วยสงวนคุณค่าสารอาหารได้ดีกว่าการต้ม เพราะสารอาหารไม่ละลายไปกับน้ำ และควรปิดฝาหม้อนึ่งให้สนิท
ข้อเสีย--- หากใช้เวลาในการนึ่งนานเกินไปจะทำให้สูญเสียคุณค่าสารอาหาร
การลวก
การลวก เป็นการทำให้อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ ใช้กับอาหารประเภทผักเพื่อ ป้องกันการสูญเสียวิตามิน วิธีการลวก คือ ล้างผักให้สะอาด ต้มน้ำให้เดือดโดยใช้ไฟแรง เติมเกลือเล็กน้อยก็ได้ ใส่ผักในเวลาอันรวดเร็ว จากนั้นตักขึ้น แช่น้ำเย็น 1-2 นาที แล้วตักใส่จาน ข้อควรระวัง คือ การลวกผักให้ปฏิบัติ โดยคำนึงถึงชนิดของผักเป็นหลัก ผักบางชนิดไม่เหมาะกับการลวกก็ให้ต้ม ผัด หรือนึ่งแทน
ข้อดี ---- การลวกเหมาะสำหรับการประกอบอาหารประเภทผัก เพราะจะช่วยสงวนคุณค่าสารอาหารไว้ได้มาก
ข้อเสีย--- วิธีนี้ไม่เหมาะสำหรับประกอบอาหารผักที่มีเนื้อแข็ง เช่นน ฟัก ฟักทอง เผือก มัน เพราะผักจะไม่สุกหรือยังมีเชื้อโรคบางชนิดหลงเหลืออยู่ เมื่อรับประทานเข้าไปอาจทำให้ท้องเสียได้
การตุ๋น
การตุ๋น คล้ายการนึ่ง แต่ใช้หม้อ 2 ชั้นซ้อนกัน หม้อใบนอกใส่น้ำ หม้อใบในใส่ของที่จะตุ๋น การนึ่งจะใช้ภาชนะวางเหนือน้ำ ส่วนการตุ๋นจะใส่อาหารลงในภาชนะแล้ววางลงในน้ำ
ข้อดี---- อาหารที่ปรุงด้วยวิธีีนี้จะสุก นุ่ม ปราศจากเชื้อโรค เหมาะสำหรับใช้เลี้ยงทารก ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยข้อเสีย-- วิธีนี้ใช้เวลาในการประกอบอาหารมาก และไม่เหมาะสำหรับอาหารประเภทเนื้อสัตว์
การผัด
การผัด คือ การทำให้อาหารสุกโดยใช้น้ำมันเพียงเล็กน้อย แต่ใช้ความร้อนมากไฟแรง โดยนำเนื้อหรือผักลงผัดในกระทะ ใช้ตะหลิวคนกลับไปมา ในระยะเวลา สั้น ๆ ถ้าใช้ฝาปิดครอบขณะผัดจะช่วยรักษาคุณค่าวิตามินบางชนิดไว้ได้
ข้อดี----อาหารจะมีปริมาณไขมันน้อยกว่าการทอด
ข้อเสีย ---ถ้าใช้เวลานานเกินไปจะทำให้สูญเสียคุณค่าสารอาหารได้
วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2560
การทอด
การทอด คือ การทำให้กรอบ หรือสุกด้วยน้ำมันร้อน ๆ
วิธีการทอดควร ปฏิบัติดังนี้
+ การทอดเนื้อ ใช้กระทะตั้งใส่น้ำมันผสมเนยเหลวเล็กน้อย เพื่อให้มีกลิ่น หอม รสดี และสีเหลืองสวย ใส่เนื้อในขณะที่น้ำมันร้อน ใช้ไฟปานกลาง
+ การทอดปลา ใช้กระทะก้นแบน ใส่น้ำมันท่วมปลา ควรให้น้ำมันร้อนก่อน ใส่ปลา ใช้ไฟปานกลาง
+ การทอดผัก ส่วนใหญ่จะชุบแป้งหรือไข่ทอดใช้น้ำมันมาก ใช้ไฟปานกลาง เมื่อทอดสุกแล้วซับน้ำมันด้วยกระดาษซับมัน
ข้อดี--- การทอด ทำให้อาหารมีความกรอบ รสชาติอร่อย น่ารับประทาน
ข้อเสีย--- วิธีนี้ จะทำให้อาหารสูญเสีย วิตามิน A วิตามินE และ วิตามินK ซึ่งละลายในไขมัน มีปริมาณไขมันสูง ถ้ารับประทานทุกมื้อ ไปขันจะสะสมในร่างกาย ทำให้อ้วนง่าย หรือเป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้
+ การทอดเนื้อ ใช้กระทะตั้งใส่น้ำมันผสมเนยเหลวเล็กน้อย เพื่อให้มีกลิ่น หอม รสดี และสีเหลืองสวย ใส่เนื้อในขณะที่น้ำมันร้อน ใช้ไฟปานกลาง
+ การทอดปลา ใช้กระทะก้นแบน ใส่น้ำมันท่วมปลา ควรให้น้ำมันร้อนก่อน ใส่ปลา ใช้ไฟปานกลาง
+ การทอดผัก ส่วนใหญ่จะชุบแป้งหรือไข่ทอดใช้น้ำมันมาก ใช้ไฟปานกลาง เมื่อทอดสุกแล้วซับน้ำมันด้วยกระดาษซับมัน
ข้อดี--- การทอด ทำให้อาหารมีความกรอบ รสชาติอร่อย น่ารับประทาน
ข้อเสีย--- วิธีนี้ จะทำให้อาหารสูญเสีย วิตามิน A วิตามินE และ วิตามินK ซึ่งละลายในไขมัน มีปริมาณไขมันสูง ถ้ารับประทานทุกมื้อ ไปขันจะสะสมในร่างกาย ทำให้อ้วนง่าย หรือเป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)